Wednesday, January 19, 2011

to be happy

สุขจากการได้
===========
น่องไก่สองชิ้นที่มีขนาดเท่ากัน
ถ้าโยนชิ้นแรกให้หมา มันจะวิ่งไปคาบ
และถ้าโยนอีกชิ้นที่เหลืออยู่ไปให้
มันจะรีบคายของเก่าและวิ่งไปคาบชิ้นใหม่แทน
หลายคนมีเสื้อผ้าจำนวนมาก
บางตัวซื้อมา ยังไม่เคยหยิบเอามาใส่ แม้แต่ครั้งเดียว
แต่ก็ยังดีใจกับการได้เสื้อผ้าใหม่ๆ

สุขจากการมี
==========
พอใจในสิ่งที่ตนมี
ไม่ต้องเปรียบเทียบความหล่อหรือสวยของแฟนกับใคร แค่คุณสมบัติดีเพียงพอ ก็มีความสุข
มีเงินเยอะแล้ว เพียงพอเหมาะสม ก็รู้จักพอ ก็มีความสุข
(แทนอีกรูปแบบที่คนจำนวนมากคิดกัน คือ ไม่เคยพอ
ทั้งๆที่มีเงินมากขึ้นทุกปี แต่ถามทีไรก็บอกว่า อยากมีเงินมากกว่าที่มีอยู่)
(สุขจากการมี ไม่ได้หมายความว่าให้งอมืองอเท้า
แต่ให้ขยันหมั่นเพียร และสันโดษ -พอใจกับสิ่งที่มี สิ่งที่เป็น- )

สุขจากการไม่มี
============
มีทรัพย์สินเงินทอง ก็ทุกข์เพราะทรัพย์สินเงินทอง
ต้องเก็บรักษา กลัวโดนขโมย กลัวมันหาย
มีบ้าน ก็กลัวไฟไหม้ กลัวมันถูกงัด
มีรถ ก็กลัวถูกขโมย
มีแฟน มีลูก ก็ทุกข์เพราะแฟน ทุกข์เพราะลูก
(เช่น แฟนกลับบ้านผิดเวลา หรือลูกป่วยไข้ไม่สบาย)
....ไม่มีซะ ก็ไม่ทุกข์


Phoenix จะเลือกเป็นคนแบบไหน?

^______^



ทางลัดไปสู่ความทุกข์ที่ใครๆนิยมใช้กัน คือ
การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

เช่น แฟนเราหล่อไม่เท่าคนนู้น
เอาใจไม่เก่งเท่าคนนี้
ลูกคนนู้นเก่งกว่าลูกของเรา
คนอื่นซื้อของได้ในราคาที่ถูกกว่าเรา
คนอื่นได้รับแจกสิ่งของที่ดีกว่าของเรา ฯลฯ

การมองแบบนี้ "ขาดทุนสองต่อ"
๑ ไม่มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่
๒ ทุกข์เพราะไม่มีสิ่งที่อยาก

แง่คิด และข้อความหลายส่วนคัดลอกมาจากหนังสือ
ความสุขที่ปลายจมูก โดย พระไพศาล วิสาโล


แต่ถ้าทุกข์ไปแล้วทำไงดี
==============

หลายครั้งเราเผลอ เอาความสุข ความทุกข์ ไปผูกติดกับสถานการณ์ภายนอก
ซึ่งแท้ที่จริง มันแยกกันได้
เศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายไม่ดี ก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
เราควรแก้ไขสถานการณ์ ไม่ใช่ทุกข์

(บางคนคิดอย่างนี้)
ตังคำพูดที่ว่า "อ่านตัวเองให้ออก บอกเตือนตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น"
เมื่อเรารู้จักตัวเอง ตัวเองกำลังเป็นทุกข์ ก็มีสติ
รู้เข้าใจว่า
ใดๆ (ความทุกข์ ความสุข) มีเกิดขึ้น มีตั้งอยู่ เดี๋ยวก็ดับไป

ถ้าทุกข์แล้ว มีประโยชน์ก็ จมอยู่กับความทุกข์ไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าไม่มีประโยชน์ ก็ต้องเลิกเติมเชื้อ ให้กับความทุกข์นั้น
คือ ไม่หลงคิดปรุงแต่งต่างๆนาๆ หลอกตัวเองไปเรื่อยๆ
มีสติอยู่กับปัจจุบัน

ที่มา คำสอนในพระพุทธศาสนา

No comments:

Post a Comment