ที่ต้องเน้นว่าเป็นสิ่งดีๆท
เช่น หากคุณบอกลูกว่า "ที่เพื่อนชอบมาตบหัวหนูทุก
หากคุณบอกกับเพื่อนของคุณว่
สำหรับผมแบบนี้ไม่ได้เรียกว
โดยตัวอย่างของการมองมุมบวก
1.เรายังเหลืออะไรอยู่บ้าง
หรือที่เราเรียกว่าเทคนิค “น้ำครึ่งแก้ว” นั่นคือ การมองว่าเรื่องร้ายๆที่เกิ
เช่น หากคลื่นสึนามิพัดบ้านเราหา
หรือหากขาขวาของเราขาดไปด้ว
หากขาซ้ายก็ขาดไปอีก เราก็ยังเหลือแขน 2 ข้าง
และถ้าแขนทั้ง 2 ข้างก็ขาด เราก็ยังเหลือหัวอยู่ครับ
หรือถ้าหัวของเราก็ขาดไปด้ว
2.โชคดีที่เรื่องที่แย่กว่า
การคิดแบบนี้จะคล้ายกับข้อแ
หากคุณจับได้ว่าแฟนนั้นแอบไ
“โชคดี ที่รู้ก่อนแต่ง”
หรือ ถ้าหากคุณเพิ่งแต่งงานกับเข
“โชคดี ที่รู้ก่อนที่จะมีลูก”
หรือ ถ้าคุณมีลูกกับเขาไปแล้ว 1 คน แล้วเขามีกิ๊ก คุณก็ยังสามารถบอกตัวเองได้
“โชคดี ที่รู้ตอนมีลูกแค่คนเดียว” (ถ้าเลิกกันก็ยังพอที่จะเลี
และแน่นอนครับว่า หากคุณจับได้ว่าเขามีกิ๊ก ตอนคุณมีลูกกับเขาไปแล้ว 3,152 คน ก็ย่อมดีกว่าที่คุณจะไปจับไ
3.เรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นนี
เชื่อมั้ยครับว่าทุกครั้งที
เช่น การเผลอเปิดเตาแก๊สทิ้งไว้ จนไฟไหม้บ้านนั้นจะทำให้เรา
การให้เพื่อนสนิทยืมเงิน แล้วเพื่อนไม่คืน จนเลิกคบกัน สอนให้เรารู้ว่า “เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใค
การกินเหล้าจนเมาแอ๋แล้วไปข
โดยสิ่งที่คุณต้องเสียไปนั้
และแน่นอนครับว่าค่าเล่าเรี
ดังนั้นเมื่อเสียค่าเล่าเรี
เพราะหากคุณยังคงคิดแบบเดิม
ที่มา หมอตั้ม : https://www.facebook.com/Growingupnormal/photos/a.257974647717243.1073741829.257704944410880/306113039570070/?type=1
มองโลกในแง่ดี
===========
๑. อะไรที่เกิดขึ้นล้วนดีทั้งนั้น อย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่แย่ไปกว่านั้น
ตัวอย่างคนที่คิดแบบนี้คือ พระปุณณะ
ครั้งที่ขออนุญาตพระพุทธเจ้า ไปเมืองสุนาปรันตะ
ซึ่งพระปุณณะตอบพระพุทธเจ้าว่า
ถ้าเขาด่า ก็ยังดีกว่าเขาทุบตี
ถ้าเขาทุบตี ก็ยังดีกว่าเขาเอาก้อนหินมาขว้าง
ถ้าเขาเอาก้อนหินมาขว้าง ก็ยังดีกว่าเขาเอาไม้มาฟาด
เป็นต้น
๒. นอกเหนือจากสิ่งแย่ๆ ก็ยังมีสิ่งดีอีกมากเคียงคู่กัน
เช่น แม้รายได้จะลด แต่ยังมีสุขภาพที่ดี ครอบครัวที่อบอุ่น เป็นต้น
เรามัวแต่ไปจดจ่อกับสิ่งที่ไม่ดี เลยรู้สึกแย่
วันหนึ่งครูชูกระดาษแผ่นหนึ่งให้นักเรียนดู
แล้วถามนักเรียนว่าเห็นอะไรบ้าง
นักเรียนทั้งชั้นบอกว่า เห็นกากบาทสีดำอยู่มุมซ้ายของกระดาษ
ครูจึงถามว่า แล้วนักเรียนไม่เห็นสีขาวของกระดาษบ้างเลยหรือ
ที่มา สุขแท้ด้วยปัญญา (พระไพศาล วิสาโล)
การรับมือกับปัญหาด้วย OPTIM
- Others หาแหล่งสนับสนุนอื่นๆ หรือเรียนรู้จากผู้อื่น ด้วยคำถามว่า "คนอื่นเขาทำกันอย่างไร"
- Positive views มองหาด้านบวก "เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เราเรียนรู้อะไร ฝึกฝนในเรื่องอะไร หากเราผ่านเรื่องนี้ไปได้ เราจะเป็นอย่างไร" ท้อเป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร
- Time frame มองหาเวลาสิ้นสุด หรือมองย้อนเวลา "ปัญหาเริ่มเมื่อใด คิดว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด"
- Impact มองไปที่ผลกระทบ "ถ้าหนักกว่านี้ จะเป็นอย่างไร" (ยังดีนะที่ไม่ถึงขนาดนั้น)
- Manage มองถึงการจัดการเรื่องนี้ด้วยด้วยตนเอง "มีอะไรบ้างที่เราพอจะทำได้บ้าง ในตอนนี้ แม้จะไม่มากก็ตาม เพื่อคลี่คลายปัญหาและลดผลกระทบ"
ที่มา สอนให้ลูกคิดบวก
No comments:
Post a Comment