Tuesday, October 20, 2009

Birthday

งานฉลอง ยิ่งใหญ่ ใครคนนั้น
ฉลองกัน ในกลุ่ม ผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศ สรรเสริญ เพลินทนง
วันเกิดส่ง ชีพสั้น เร่งวันตาย

ณ มุมหนึ่ง ซึ่งเหงา น่าเศร้าแท้
หญิงแก่แก่ นั่งหงอย และคอยหาย
โอ้วันนี้ ในวันนั้น อันตราย
แม่คลอดสาย โลหิต แทบปลิดชนม์

วันเกิดลูก เกือบคล้าย วันตายแม่
เจ็บท้องแท้ เท่าไร ก็ไม่บ่น
กว่าอุ้มท้อง กว่าจะคลอด รอดเป็นคน
เติบโตจน บัดนี้ นี่เพราะใคร

แม่เจ็บเจียน จะขาดใจ ในวันนั้น
กลับเป็นวัน ลูกฉลอง กันผ่องใส
ได้ชีวิต แล้วก็เหลิง ระเริงใจ
ลืมผู้ให้ ชีวิต อนิจจา

ไฉนเรา เรียกกันว่า "วันเกิด"
"วันผู้ให้ กำเนิด" จะถูกกว่า
คำอวยพร ที่เขียน ควรเปลี่ยนมา
"ให้มารดา คุณเป็นสุข" จึงถูกแท้

เลิกจัดงาน วันเกิด กันเถิดนะ
ควรแต่จะ คุกเข่า กราบเท้าแม่
รำลึกถึง พระคุณ อบอุ่นแด
อย่ามัวแต่ จัดงาน ประจานตัว

นภาลัย สุวรรณธาดา

Friday, October 9, 2009

Travel broadens your mind.

นอกจากบอกให้ลงทุนสร้างความเก่งที่สุดในเรื่องหนึ่ง เธอยังแนะว่า ควรเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำอะไรหลายอย่าง เพราะมันเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ถ้าไม่ได้ลองอะไรหลายอย่างจะไม่มีวันรู้อะไรเพิ่มขึ้น

หนูดีมักบอกผู้ปกครองว่าให้ลูกไปลองหลายเวทีนะคะ และดูว่าอันไหนเหมาะกับเขามากที่สุด เขาอาจไม่ชอบทุกอัน หนูดีก็ไม่ชอบทุกอัน หนูดีเกลียดเปียโน แต่หนูดีก็ต้องเรียน เพราะอยู่ในเส้นทางที่คุณแม่วางไว้ หนูดีไปเรียนเทควันโดก็ชอบ แต่เหนื่อย หนูดีก็ไม่ไปอีก คุณแม่ให้ไปเรียนการละคร หนูดีก็ไม่ชอบ แต่ดูสิ มันมีประโยชน์ต่อชีวิตปัจจุบันมาก

เธอบอกว่าเรื่องที่เธอเกลียดที่สุดอีกเรื่องหนึ่งคือ การพูดต่อหน้าที่ชุมชน เรียกว่าเกลียดเข้ากระดูกดำ แต่ยอมรับด้วยเสียงเริงร่าว่า ทุกวันนี้มันคือเครื่องมือหาเลี้ยงชีพของเธอ และจะไม่มีวันรู้เลยถ้าไม่ได้ลอง

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ กายใจ ฉบับที่ 15

Thursday, October 8, 2009

Realistic

เป็นเรื่องที่ฟอร์เวิร์ดมาอีกทีหนึ่ง


เพื่อนผม เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง เธอหน้าตาดี
เราเรียนจบมาในคณะเดียวกัน หลังจากเรียนจบมาได้ ปีกว่าๆ
ผมก็ได้รับการ์ดเชิญไปงานแต่ง

วันแต่งงานของเธอ เธอดูสวยและสดใสเหมือนเดิม
ดูท่าแล้วเธอคงจะเจอเนื้อคู่ ตามที่เธอใฝ่ฝันไว้แล้วจริงๆ
เพื่อนสาวในกลุ่มของเธอถึงกับตาร้อนพ่าว
อยากออกเย้าออกเรือนเหมือนกับเธอบ้าง

ผ่านไปได้เกือบปีกว่าๆ ผมก็ได้ข่าวว่า เธอได้คลอดลูกแล้ว พวกเพื่อนๆ
รวมทั้งผม ก็ได้ตามไปเยี่ยมเธอที่บ้าน เธอคงเป็นคนโชคดีคนหนึ่งที่ผมเห็น
เพราะทั้งสามีและครอบครัวของเธอ ดูมีความสุขกันถ้วนหน้า เพื่อนๆ
ต่างล้อเธอว่า เธอเหมือนถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1
เพราะเธอได้สามีที่แสนดี ผมเองก็รู้สึกเช่นนั้น
เพราะมันช่างแตกต่างจากหลายๆ คู่ที่ผมเคยได้ยินมา

เวลาผ่านไปอีกปีกว่าๆ เช่นเคย ผมก็ได้รับข่าวว่าเธอคลอดลูกแล้วอีกคน
ชีวิตเธอทำเอาผมเริ่มรู้สึกอยากมีชีวิตคู่ขึ้นมาทันที
ผมไปเยี่ยมเธอเหมือนครั้งที่แล้ว แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ดูเธอมีความสุขที่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เธอเองก็บอกกับผมเช่นนั้น
ชีวิตครอบครัวของเธอลงตัวกันได้อย่างดี

สองปีผ่านไป เพื่อนในกลุ่มของเราแต่งงาน
ผมได้เจอเธออีกครั้งในงานแต่งนี้ หลังเลิกจากงาน ผมอาสาพาเธอไปส่งบ้าน
ตลอดเส้นทางเธอทำให้ทัศนคติของผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
เธอได้เอ่ยคุยถึงเรื่องครอบครัว ผมบอกว่าเธอโชคดีที่ได้สามีคนนี้
แล้วเธอก็บอกกับผมว่า ไม่มีใครดีที่สุด
ทุกคนย่อมมีข้อเสียและข้อดีแตกต่างกัน เขาก็มีข้อเสีย เราก็มีข้อเสีย
แต่เมื่อแต่งงานกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตคู่อยู่ได้คือ การให้อภัย
และ การปล่อยวาง ไม่ใช่เธอไม่เคยเจอเรื่องที่ไม่พอใจ
เพียงแต่เธอไม่ทำให้เป็นเรื่องมากกว่า ผมก็แอบชื่นชมเธออยู่ในใจ
สักพักเธอก็พูดขึ้นมาว่า รู้ไหมแก บางครั้งฉันยังแอบคิดถึง
คนที่ฉันเคยแอบรักเขาอยู่เลย ยังคงแอบคิดถึงอยู่เป็นประจำ แต่แกรู้ไหม
ฉันรู้ดีว่า คนที่ฉันรักมันไม่ใช่คนที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย ผมทำหน้างงๆ
เธอยิ้มแล้วพูดต่อว่า
คนที่เรารักบางครั้งอาจไม่เหมาะที่จะมาใช้ชีวิตอยู่คู่กับเรา
เขาเหมาะเพียงแค่ให้เราได้ แอบรัก แอบคิดถึง แต่ในความเป็นจริงแล้ว
เรารู้ดีว่าคนที่จะอยู่กับเราได้นั้นต้องเป็นยังงัย
ฉันเองก็เลือกถูกต้องแล้ว ชีวิตคู่สมัยนี้คิดแต่ จะเลือกเฉพาะคนที่เรารัก
แต่ไม่ได้มองว่าเขากับเราจะเข้ากันได้ไหม เขาเป็นคนยังงัย
จนกระทั้งอยู่ด้วยกันจริงๆ เมื่อความรักหายไป
ความเป็นตัวตนที่แท้จริงก็ออกมา อะไรที่ทำแต่ก่อนไม่เคยสนใจ
เดี๋ยวนี้นิดหน่อยก็ขัดหูขัดตา แล้วก็มาจบลงด้วยการหย่าร้าง
แกเชื่อเถอะว่า เมื่ออยู่ด้วยกันนานๆ แล้ว
ความรักมักมาช้ากว่าอย่างอื่นเสมอๆ หากเราจะเลือกใครเป็นคู่ชีวิตสักคน
เราควรจะมองเขาให้มากกว่าความรัก

ผมขับรถมาถึงหน้าบ้านเธอพอดี สามีเธอออกมารับ สองคนพากันเข้าบ้าน
ดูความรักของเธอและครอบครัวก็อบอุ่นดี หลังจากผมขับรถกลับ
ผมก็คิดได้ทันทีว่า บ่อยครั้งคนที่อยู่เคียงข้างผมมักถามผมว่า
เมื่อไหร่จะแต่งงานสะที แต่ผมกับคิดถึงแต่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผมแอบหลงรัก
จนลืมความจริงไปว่า

เราควรอยู่กับสิ่งที่ใช่ มากกว่าพยายามเรียกร้องหาสิ่งที่เป็นเพียงความว่างเปล่า

คำพูดของเธอทำให้ผมมองชีวิตคู่เปลี่ยนไป
และเปิดใจรับกับการแต่งงานมากขึ้น จนกระทั้งวันนี้ ผมมีลูกแล้วสองคน
กับภรรยาที่ผมเลือกแล้วว่าเธอควรค่ากับการเป็นแม่ของลูกผม แล้วคุณล่ะ

จะเลือก คนที่ใช่ หรือว่า คนที่ชอบ!!

As a man thinks,He is.

ในทางที่ว่าด้วยเหตุผล
=================

Sow a thought, reap an act;
Sow an act, reap a habit;
Sow a habit, reap a character;
Sow a character, reap a destiny.
(ปรากฏในหนังสือพุทธปรัชญาเถรวาท)

มองดูสิ่งที่คุณคิด ; มันจะกลายเป็นคำพูด.
มองดูคำพูดของคุณ ; มันจะกลายเป็นการกระทำ.
มองดูการกระทำของคุณ ; มันจะกลายเป็นนิสัยติดตัว.
มองดูนิสัยของคุณ; มันจะกลายเป็นบุคลิก.
มองดูบุคลิกของคุณ; มันจะกลายเป็นโชคชะตา.

ฝรั่งเขาว่า Thirty times make a habit.

Our life is what our thoughts make it.
มารคุส ออรีลิยุส มหาจักรพรรติแห่งจักรวรรดิโรมัน
(ปรากฏในหนังสือพุทธปรัชญาเถรวาท)

ในทางจิตวิทยา
============
ในหนังสือ Psychology of power
ทดสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงว่า
จิตใจจะทำให้กำลังทางกายเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ อย่างไร

เขาให้ชาย ๓ คน บีบเครื่องวัดกำลังแรงของกล้ามเนื้อ (ไดนาโมมิเตอร์)
ให้แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้
เขาทดลอง ๓ วาระ

วาระแรก ทดสอบในขณะปกติ
ได้ผลออกมาว่า โดยเฉลี่ย คนหนึ่งบีบได้แรง ๑๐๑ ปอนด์

วาระที่สอง เขาสะกดจิตคนทั้ง ๓
แล้วทดลองโดยบอกให้พวกเขาทราบว่า เวลานี้ทั้ง ๓ คนเป็นผู้อ่อนแรงมาก
ได้ผลเฉลี่ยที่ ๒๙ ปอนด์

วาระที่สาม ขณะที่ชายทั้ง ๓ ถูกสะกดจิต
นายแพทย์แฮดฟิลด์บอกคนทั้ง ๓ ว่า พวกเขามีกำลังแข็งแรงพิเศษทีเดียว
ผลการบีบ คิดเฉลี่ยแล้วได้คนละ ๑๔๒ ปอนด์

(บทความส่วนหนึ่งในหนังสือพุทธปรัชญาเถรวาท)