>>บางทีเราก็ฝันเหมือนจริง
บางทีก็เหมือนกับฝัน แต่จำเรื่องราวไม่ได้ เกิดจากอะไร?
ฝัน
==
ฝันมักเกิดขึ้นในช่วง REM sleep
แต่ก็เกิดได้ในช่วง non-REM ได้เช่นเดียวกัน
>>หากปลุกคนที่นอนอยู่ในช่วง REM และ non-REM มาถามถึงความฝัน จะพบว่า ..
- คนที่ตื่นในช่วง REM sleep
จะจำความฝันได้ ฝันซับซ้อน สมจริง และมีอารมณ์ร่วม
(recalled elaborate, vivid and emotional dreams)
- คนที่ตื่นในช่วง non-REM sleep
จำไม่ค่อยได้ว่าฝัน ฝันเลอะเลือน ไม่มีอารมณ์ร่วม
นอกจากนี้ เรายังสามารถฝันในช่วงหลับตื้น light non-REM sleep ได้อีกด้วย
ฝันทำไม
======
เรายังไม่ทราบว่าเหตุใดจึงฝัน และฝันสำคัญอย่างไร
แต่เชื่อว่าฝัน ทำให้ลืมข้อมูลที่ไม่จำเป็นที่ได้รับมาในแต่ละวันออกไป
ให้เหลืออยู่เฉพาะเรื่องที่น่าจดจำเอาไว้เท่านั้น
การฝันมีส่วนช่วยลดความเครียดโดยกลไกที่เรายังไม่รู้แน่ว่าทำอย่างไร รู้แต่ว่า
ถ้าช่วงหลับฝัน (REM) ลดลง… คนจะเครียดง่ายขึ้น
การหลับฝัน (REM) ช่วยจัดระบบความจำ ทำให้จำเรื่องบางเรื่องได้นานขึ้น
ฝันร้าย
=====
การเกิดฝันร้ายเป็นประจำถือเป็นความผิดปรกติของการนอนได้เช่นกัน
โดยอารมณ์ที่จะเหนี่ยวนำให้เกิดฝันร้าย ได้แก่
ความโกรธ วิตกกังวล เศร้าหดหู่ กลัว และ ความละอายใจ
จากการสำรวจ พบว่าคนเรามักจะฝันร้าย 3 เรื่อง ได้แก่
1. ถูกไล่ตาม (Being chased)
(ถ้าเป็นผู้ใหญ่จะฝันว่าถูกคนไล่ตาม ถ้าเป็นเด็กจะฝันว่าถูกสัตว์ร้าย หรือสัตว์ประหลาดไล่ตาม)
2. การสูญเสีย (Falling)
3 ฟันหัก (Having your teeth fall out)
ฝันร้ายเกิดจากหลายสาเหตุ โดยทั่วไปแล้ว มาจาก
- การดื่มแอลกอฮอล
- ความเครียด และความวิตกกังวล
- ความอ่อนเพลีย เมื่อยล้า
- อาการไข้
- post-traumatic stress syndrome (PTSD)
- การตั้งครรภ์ (Pregnancy)
- ยา
ที่พบได้บ่อย ได้แก่ ยารักษาโรคหัวใจ และยาปฎิชีวนะบางชนิด
(heart medications and certain antibiotics)
- ปัญหาทางจิต
- อยู่ในช่วงรักษาอาการติดยา (withdrawals from addictive drugs)
การรักษา
- หากเด็กฝันร้ายติดๆกันหลายครั้ง
ให้ย้อนดูว่าเด็กมีความเครียด หรือความกลัวจากเรื่องใด
สำหรับผู้ใหญ่ ให้แก้ที่สาเหตุ เช่น
- หากฝันเกิดจากความเครียด ควรจะหาทางแก้สาเหตุที่ทำให้เครียด
และออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาให้หายเครียด
- ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ให้เขียนความฝันนั้น
จากนั้นจินตนาการเรื่องราวในตอนจบใหม่ให้น่ากลัวน้อยลง
และ การเล่าเกี่ยวกับฝันร้ายก็ช่วยให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
และปล่อยวางฝันร้ายนั้นได้
เด็กในบ้านอาจละเมอในช่วง 3-7 ขวบ
ควรจัดบ้านให้ปลอดภัย เช่น ระวังการละเมอตกบันได ฯลฯ
และไม่ควรปลุกทันที เนื่องจากอาจทำให้เกิดการตกใจอย่างรุนแรงได้
สำหรับคนที่สนใจงานวิจัยเกี่ยวกับความฝัน และสมอง
http://asdreams.org/study/asd-DreamHealing.htm
No comments:
Post a Comment