Monday, June 15, 2015

จับกุ้งฝอย

ณ เมืองอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ปี 2009, Kraftfoods บริษัทผลิตขนมชื่อดังของประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Oreo, Ritz, Toblerone ฯลฯ ได้ทำการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Cadbury Adams ผู้ผลิตขนมชื่อดังของประเทศอังกฤษ เจ้าของแบรนด์ ลูกอม Halls, Clorets, Trident, Chiclets ฯลฯ ซึ่งมีโรงงานผลิตขนาดใหญ่มากมาย กระจายอยู่แทบจะทุกทวีปทั่วโลก

ดีลในครั้งนั้น จบลงด้วยจำนวนเงินราว 520,000 ล้านบาท ส่งผลให้ Kraftfoods กลายเป็นผู้ผลิตขนมรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกทันที (รองจาก Mars เท่านั้น)

ห่างออกมาราว 2,000 ไมล์ ในอีก 5 ปีต่อมา ที่ Silicon Valley

Facebook ได้ทำการเข้าซื้อกิจการ Whatsapp ด้วยราคาถึง 610,000 ล้านบาท!?

ซึ่งในขณะนั้น Whatapps มีพนักงานเพียง 55 คน กับออฟฟิตเล็กๆอีก 1 แห่งเท่านั้น

มองแบบผิวเผินแล้ว ทำไมราคาของ Whatapp มันถึงได้สูงมหาโหดเยี่ยงนี้? ดูแล้วกิจการแทบจะไม่มีอะไรเลย มีแค่ App อันเดียว แล้วก็แทบจะไม่ได้ก่อให้เกิดการผลิตอะไรขึ้นมาเลย

แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เพราะมันมีคนใช้งานมากกว่า 470 ล้านคนเฉลี่ยต่อเดือน(ในเวลานั้น) นี่ล่ะครับ ที่ก่อให้เกิด impact มหาศาลต่อวงการสื่อสาร และ Facebook ก็ได้มองเห็นว่า Whatsapp ยังสามารถไปได้อีกไกล (ปัจจุบัน Whatsapp มีผู้ใช้งานเกิน 800 ล้านคนทั่วโลกไปแล้ว)

ลองดูบริษัทใกล้ตัวกันบ้างครับ

CPF สุดยอดบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการอาหารของไทย โรงงานผลิตขนาดใหญ่และทันสมัย สามารถส่งออกอาหารไปขายได้ทั่วโลก มูลค่าบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ราว 179,000 ล้านบาท

ส่วนมูลค่าของ Facebook อยู่ที่ 8,800,000 ล้านบาท (ข้อมูล Update วันที่ 13 มิ.ย. 58)

ห่างกันเกือบ 50 เท่า!

เป็นเพราะ Facebook นั้น impact กับคนแทบจะค่อนโลกไปแล้ว (ปัจจุบันมีผู้ใช้ราว 1.5 พันล้านคน)

ตอนแรกที่ Facebook เข้าตลาดหลักทรัพย์ ในปี 2012 ราคาก็ดิ่งลงเลย เพราะตอนนั้นผู้คนต่างคิดว่า ฉาบฉวยหรือเปล่า? ธุรกิจมีแต่ Website จะหาเงินได้อย่างไร?

แต่มาวันนี้ Facebook ได้พิสูจน์แล้วว่า การที่มีจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกมากขนาดนี้สามารถดึงดูดเม็ดเงินโฆษณาจากบริษัทต่างๆทั่วโลกได้อย่างมากมาย และรายได้ของพวกเขาก็น่าประทับใจเลยทีเดียว

ในปี 2014 Facebook มีรายได้ทั้งหมด 400,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 94,000 ล้านบาท (เทียบกับ CPF ที่มีกำไรสุทธิราว 10,600 ล้านบาทในปีเดียวกัน)
.
.
.

สำหรับผู้ที่มีไอเดียและต้องการเริ่มธุรกิจใหม่ ลองสำรวจดูว่าไอเดียของท่านเหล่านั้นมันมีผลกระทบต่อผู้คนเป็นวงกว้างหรือไม่ หากดูแล้วมีแวว ถึงแม้ตอนแรกจะมองไม่เห็นวิธีการทำกำไรก็น่าลองครับ เพราะเม็ดเงินมันจะตามมาเองหากธุรกิจของท่านส่งผลกระทบต่อผู้คนมากพอ

“เคยได้ยินว่าคนจับกุ้งฝอยจนรวย ไม่เคยได้ยินว่าใครจับปลาวาฬแล้วรวย” – Jack Ma

ที่มา : https://www.facebook.com/1536715283275877/photos/a.1541486682798737.1073741827.1536715283275877/1589893631291375/

No comments:

Post a Comment