Monday, February 8, 2021

HR Policy Netflix

อุทธาหรณ์สอนใจ HR ก่อนออกนโยบายอะไรมา (บทเรียนจาก Netflix)

ก่อนที่ Reed Hastings จะออกมาตั้ง Netflix เขาเคยทำงานที่ Pure Software

บริษัทนี้มีนโยบายว่าหากมีการเดินทาง พนักงานสามารถเบิกค่าเช่ารถหรือไม่ก็ค่าแท็กซี่ แต่จะเบิกทั้งสองอย่างไม่ได้

พนักงานชื่อ Grant ซึ่งเป็น sales director ต้องออกไปหาลูกค้าที่อยู่ไกลออกไป 2 ชั่วโมง เขาจึงตัดสินใจเช่ารถขับไปเองเพราะถ้าขึ้นแท็กซี่จะแพงมาก

คืนนั้นกรานท์ต้องพาลูกค้าไปเลี้ยงรับรอง และเขารู้ว่าต้องดื่มกันหนักแน่นอน เขาจึงไม่ได้ขับรถไป เมื่อจบงานเลี้ยงเขาจึงเรียกแท็กซี่กลับโรงแรม

แต่ปรากฎว่าแผนกบัญชีไม่ยอมให้กรานท์เบิกค่าแท็กซี่ 15 เหรียญ

กรานท์โกรธมาก เดินมาโวยวายกับรี้ดว่าทำไมต้องมีกฎงี่เง่าอย่างนี้ด้วย

"ในกรณีแบบนี้ คุณอยากให้ผมขับรถกลับโรงแรมรึไง?"

รี้ดและหัวหน้า HR ไม่มีคำตอบที่ดี และประชุมกันเพื่อจะพยายามหาทางปรับกฎระเบียบบริษัท

ไม่กี่เดือนถัดมากรานท์ก็ลาออก โดยใน Exit Interview เขาให้สัมภาษณ์ไว้ว่า 

"พอผมได้เห็นว่าผู้บริหารใช้เวลาไปกับเรื่องอะไรบ้าง ผมก็หมดความเชื่อมั่น"

-----

เมื่อออกมาทำ Netflix รี้ดจึงพยายามไม่ตั้งกฏเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายบริษัท แต่เมื่อเน็ตฟลิกซ์เติบโตจนเข้าตลาดหลักทรัพย์ CFO ก็บอกว่ามันเริ่มมีความจำเป็นแล้วที่จะต้องตั้งนโยบายเรื่องค่าใช้จ่ายให้เป็นลายลักษณ์อักษร

รี้ดจึงเรียกประชุมผู้บริหารเพื่อ brainstorm

บางสถานการณ์ก็ตรงไปตรงมา ถ้าพนักงานจะส่งของขวัญคริสต์มาสให้คนในครอบครัว เขาก็เบิกค่าส่งของไม่ได้อยู่แล้ว

แต่บางสถานการณ์ก็ซับซ้อนกว่านั้น สมมติเท็ดต้องไปงานปาร์ตี้ที่ฮอลลี้วู้ดเพื่อสร้าง connection กับลูกค้า ถ้าเท็ดซื้อช็อคโกแล็ตไปฝากลูกค้า เท็ดจะเบิกค่าช็อคโกแล็ตได้รึเปล่า?

หรือถ้าเลสลี่ทำงานจากที่บ้านทุกวันพุธ จะเบิกค่ากระดาษใส่ปริ้นท์เตอร์ของตัวเองได้มั้ย? แล้วถ้าลูกของเลสลี่ใช้กระดาษนั้นปริ้นท์การบ้านด้วยล่ะ?

สิ่งเดียวที่รี้ดและผู้บริหารหลายคนเห็นร่วมกันก็คือ ถ้าพนักงานขโมยทรัพย์สินของบริษัทก็สมควรโดนไล่ออก

แต่โคลเอ้ซึ่งเป็น director คนหนึ่งก็ยกมือขึ้นแล้วพูดว่า

"เมื่อคืนวันจันทร์ฉันเพิ่งขโมยของจากบริษัทมาเอง ฉันทำงานถึง 5 ทุ่มเพื่อทำโปรเจ็คให้เสร็จ ฉันไม่มีอาหารมื้อเช้าไว้ให้ลูกก็เลยหยิบซีเรียลกลับบ้านไปสองกล่อง"

ซึ่งฟังดูแล้วก็สมเหตุสมผลดี รี้ดจึงเข้าใจว่า เราไม่มีทางตั้งนโยบายที่จะตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ได้ เพราะในความเป็นจริงมันมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย - Real life is so much more nuanced than any policy could ever address.

รี้ดเลยคิดว่าน่าจะออกกฎหลวมๆ ให้พนักงานใช้เงินกันอย่างมัธยัสถ์ ควรจะคิดอย่างถี่ถ้วนก่อนจะจ่ายอะไรออกไป

เน็ตฟลิกซ์จึงออกไกด์ไลน์มาว่า

SPEND COMPANY MONEY AS IF IT WERE YOUR OWN

จงใช้เงินบริษัทเหมือนกับที่เราใช้เงินตัวเอง

ถ้าพนักงานทุกคนใช้เงินบริษัทโดยคิดแบบนี้ ทุกอย่างก็น่าจะโอเค

-----

แต่แล้วรี้ดก็พบว่าตัวเองคิดผิด เพราะแต่ละคนเติบโตมาไม่เหมือนกัน บางคนมีนิสัยมือเติบอยู่แล้ว จะเป็นเป็นเงินตัวเองหรือเงินบริษัทก็ยังอู้ฟู่อยู่ดี

เดวิดเป็นผู้บริหารระดับสูงในแผนกไฟแนนซ์ เขาเป็นคนนิสัยมัธยัสถ์เป็นทุนเดิม วันหนึ่งเดวิดต้องบินไปประชุมต่างเมืองซึ่งใช้เวลาบินแค่สองชั่วโมงกว่า เขาจึงซื้อตั๋ว Economy

แต่พอเดวิดเดินขึ้นเครื่อง เขาก็พบว่าทีม Content ทั้งทีมนั่งอยู่ในชั้น First Class กันอย่างสบายใจเฉิบ

เดวิดเลยเดินไปกล่าวทักทายเหล่าทีม Content พวกเขารู้สึกอับอายอยู่นิดหน่อย แต่ไม่ได้อายที่ซื้อตั๋ว First Class กันหรอกนะ อายที่เดวิดซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงไปนั่งชั้น Economy ต่างหาก!

รี้ดจึงพบว่า นโยบายให้ใช้เงินเหมือนเป็นเงินตัวเองนี้ก็ไม่เวิร์คเหมือนกัน

หลังจากคิดกันแทบหัวแตก จึงได้นโยบายใหม่ออกมา ซึ่งเป็นประโยคสั้นๆ เพียง 5 คำ

ACT IN NETFLIX'S BEST INTEREST

ยึดประโยชน์ของเน็ตฟลิกซ์เป็นที่ตั้ง

ถ้าคุณต้องบินข้ามคืนและพอถึงแล้วก็ต้องไปพรีเซนต์งานกับลูกค้า การซื้อตั๋ว  First Class ถือเป็นการเอาผลประโยชน์ของบริษัทเป็นที่ตั้ง เพราะเราคงไม่อยากให้ลูกค้าเจอเราในสภาพตาโหลไร้เรี่ยวแรงหรอก

ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เน็ตฟลิกซ์ก็ใช้นโยบายเดิมมาตลอด

โดยรี้ดกล่าวไว้ว่า

"I didn't want our talented employees to feel that dumb rules were preventing them from using their brains to do what was best"

"ผมไม่ต้องการให้คนเก่งของเรารู้สึกว่ากฎระเบียบที่งี่เง่านั้นมาขัดขวางไม่ให้พวกเขาใช้สมองเพื่อจะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้บริษัท"

-----

ขอบคุณเนื้อหาจากหนังสือ No Rules Rules: Netflix and the Culture of Reinvention

ทีม People ของผมที่ LINE MAN Wongnai (ที่นี่เราเรียกทีม HR ว่าทีม People) กำลังเปิดรับสมัครตำแหน่ง Senior People Engagement Specialist มีหน้าที่หลักคือดูแลเอาใจใส่พนักงาน

เรามองพนักงานเป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีความสามารถและมีวิจารณญาณ ดังนั้นจึงจะมีกฎไม่เยอะ แต่จะใช้ common sense เยอะหน่อย

ใครสนใจมาร่วมงานกัน เชิญได้ที่นี่ครับ >> https://careers.lmwn.com/people/699-senior-people-engagement-specialist

-----

https://anontawong.com/2021/02/08/hr-policy-netflix/

No comments:

Post a Comment