คุณหมอผู้เชียวชาญผู้ดูแลภรรยาและลูกให้ความรู้แก่พวกเราว่า
จากงานวิจัย มีธรรมเนียมในการอยู่ไฟในต่างประเทศเหมือนกัน
แต่ผลที่พิสูจน์ได้ถึงประโยชน์ (เช่น จะทำให้สุขภาพดีในระยะยาว) นั้นไม่ปรากฏชัด
สิ่งที่พูดกันมาปากต่อปากจึงเป็นได้เพียงความเชื่อ (ของคนหมู่มาก)
สิ่งเดียวที่ฟังดูเป็นไปได้ในทางวิทยาศาสตร์ คือ
ความร้อนจะทำให้เลือดไหลเวียนดี เป็นประโยชน์กับการให้นมบุตร
แต่ต้องมีองค์ประกอบที่เหมาะสม คือ แม่กินน้ำเยอะเพียงพอ (กับเหงื่อที่เสียไป)
ซึ่งด้วยวิธีการอื่น ก็มีผลให้เลือดไหลเวียนดีได้เหมือนกัน !!!
ถ้าคิดตามวิทยาศาสตร์ และตามเหตุตามผล
ไหนๆเราก็อยู่ไฟในแบบประยุกต์ คือ ไม่ตรงตามโบราณอยู่แล้ว
หลายคน ออกมาจากตู้อบซาวน่า แล้วก็เข้าห้องแอร์ กินน้ำเย็น
แล้วทำไมเราต้องอยู่ไฟอีกหละ ???
ประสพการณ์, เรื่องราวทั่วไป, แง่คิด, มุมมอง ที่น่าสนใจ - สิริพงษ์ พงศ์ภิญโญภาพ
Thursday, September 18, 2008
Sunday, September 14, 2008
The problem of Not enough milk
ตั้งแต่คลอดลูกคนแรกใหม่ๆ เมื่อสี่ปีก่อน ด้วยความไม่รู้ ทำให้หลงคิดว่าตัวเองนมน้อย นมไม่พอ
พยายามขวนขวายหายาโน่น ยานี่ว่ามีอะไรที่จะช่วยเพิ่มน้ำนมได้บ้าง
ทดลองรับประทานด้วยตัวเองมาหมดแล้วหลายขนาน
ไม่ว่าจะเป็น จินจีเหมาเยี่ย, Fenugreek, ชาเรียกน้ำนม
จนมาถึงขนานสุดท้ายคือ ยาประสระน้ำนม
ยาเพิ่มน้ำนมขนานเอกนั้นมีอยู่กับตัวแม่ทุกคนอยู่แล้ว แต่ใช้กันไม่ถูกวิธีเพราะความไม่รู้นั่นเอง
เรามัวแต่จะหายาสารพัดมากินเพื่อเพิ่มน้ำนม จะได้มีนมเยอะๆ ให้ลูกกิน
ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว
แต่สำหรับคนที่ขาดความมั่นใจในช่วงแรก ไม่ว่าจะขาดเอง หรือคนรอบข้างช่วยกันซ้ำเติมให้ขาด
การใช้ตัวช่วยบ้างนิดๆ หน่อยก็ช่วยสร้างความมั่นใจได้ดีทีเดียวค่ะ
สมุนไพรเร่งน้ำนม -> นมแม่ -> นมผง
=======================
เชื่อว่าคงมีหลายคนที่อาจจะรู้จักหรือเคยได้ยินเรื่อง ยาประสระน้ำนม และมีคนแนะนำให้กินกันมาบ้าง
แล้วก็คงจะมีหลายคนเช่นกัน ที่ไม่กล้ากิน ขอไปถามหมอก่อน แล้วก็คงไม่ได้กิน เพราะหมอไม่รู้จัก
ในตำราหมอไม่มี หมอก็เลยไม่แนะนำ
แม่ไม่มีน้ำนม ก็ให้ลูกกินนมชงแทนสิ ไม่เห็นยาก
น่าแปลกนะคะ เวลาแม่จะกินอะไรให้มีน้ำนมเพิ่มนี่ มีแต่คนทักท้วงให้ระวังโน่น ระวังนี่
แต่เวลาเอานมผงชงให้ลูกกินนี่ ทำได้ทันทีเลย ไม่ต้องถามใคร
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว การที่แม่จะกินอะไรสักอย่างนั้น ร่างกายแม่จะเป็นตัวกรองชนิดสุดยอดแล้ว
เพราะกว่าจะผ่านระบบการย่อยของร่างกายแม่ ผ่านเข้าสู่กระแสเลือด ไปสู่กระบวนการสร้างน้ำนมนั้น
ธรรมชาติทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้น้ำนมของแม่ เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับลูกจริงๆ
ทำให้ไม่มีลูกคนไหนมีปัญหากับการกินนมแม่
...
ในทางตรงกันข้าม สำหรับเด็กบางคนแล้ว นมผสมมีความเสี่ยงมากกว่ามาก
หลายๆ คน ย่อยไม่ได้ ทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ ท้องผูก ท้องเสีย รวมทั้งทำให้ป่วยบ่อย เพราะขาดภูมิคุ้มกัน
อยากให้แม่ทุกคน ระวังและก็หาข้อมูลมากๆ เวลาจะตัดสินใจ ชงนมผสมให้ลูกกิน
เหมือนเวลาที่กังวลว่าแม่กินอันนี้ อันนั้น ปลอดภัยสำหรับลูกหรือเปล่าจังเลยนะคะ
ประสระน้ำนม
======
คำว่า “ประสระ” แปลว่า ทำให้บริสุทธิ์
“ยาประสระน้ำนม” ก็หมายความว่า เป็นยาที่ทำให้น้ำนมบริสุทธิ์ ทำให้น้ำนมดี อะไรประมาณนั้น
ยาประเภทนี้เป็นยาแผนโบราณขึ้น ทะเบียนกับ อย. ไว้หลายบริษัททีเดียว
(ของพารา-แม่เลื่อน ซองละ 12 บาท)
สมัยก่อนที่เรายังไม่ถูกครอบงำด้วย กระแสการตลาดของนมผสม
แม่ๆ สมัยนั้น ใครน้ำนมมาช้า คงหาซื้อกินกันเป็นเรื่องปกติ
แต่พอคนเริ่มไปนิยมการเลี้ยงลูกด้วยนมขวด
ยาประสระน้ำนมก็เลยกลายเป็นของที่ไม่จำเป็น
สุดท้ายก็เลิกผลิตกันไปกันเกือบหมด (สมมุติฐาน)
...
สำหรับ Domperidone นั้น คงจะรู้จักกันแล้ว เพราะมีงานวิจัยของการประชุมวิชาการนมแม่มาให้อ่านประกอบกันแล้ว
ส่วน Fenugreek นั้น ถ้าใครไป search ต่อใน google คงจะหาข้อมูลได้ไม่ยาก
เพราะเป็นอาหารเสริมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในบรรดาแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในต่างประเทศ
....
สรุปสุดท้าย
=====
ไม่ว่าจะเป็นยาตัวไหน อาหารอะไรก็ตาม ที่ช่วยเพิ่มน้ำนม นั้น
ทุกขนานเป็นการให้ผลชั่วครั้งคราวเท่านั้น ในระยะแรกๆ
แต่ระยะยาวแล้ว การที่แม่จะมีน้ำนมให้เพียงพอสำหรับลูกนั้น
แม่จะต้องนำน้ำนมออกจากร่างกาย อย่างสม่ำเสมอ โดยการดูดของลูก การบีบด้วยมือ หรือการปั๊มค่ะ
ไม่เช่นนั้นแล้ว ต่อให้เป็นยาวิเศษขนานไหน ก็ไม่อาจช่วยได้ค่ะ
ที่มา http://www.breastfeedingthai.com/ยาประสระน้ำนม.html
พยายามขวนขวายหายาโน่น ยานี่ว่ามีอะไรที่จะช่วยเพิ่มน้ำนมได้บ้าง
ทดลองรับประทานด้วยตัวเองมาหมดแล้วหลายขนาน
ไม่ว่าจะเป็น จินจีเหมาเยี่ย, Fenugreek, ชาเรียกน้ำนม
จนมาถึงขนานสุดท้ายคือ ยาประสระน้ำนม
ยาเพิ่มน้ำนมขนานเอกนั้นมีอยู่กับตัวแม่ทุกคนอยู่แล้ว แต่ใช้กันไม่ถูกวิธีเพราะความไม่รู้นั่นเอง
เรามัวแต่จะหายาสารพัดมากินเพื่อเพิ่มน้ำนม จะได้มีนมเยอะๆ ให้ลูกกิน
ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว
แค่ให้ลูกดูดอย่างมีประสิทธิภาพบ่อยๆ ในช่วงระยะเวลาที่นานพอ
ร่างกายก็จะผลิตน้ำนมได้มากเพียงพอกับความต้องการของลูกเอง
แต่สำหรับคนที่ขาดความมั่นใจในช่วงแรก ไม่ว่าจะขาดเอง หรือคนรอบข้างช่วยกันซ้ำเติมให้ขาด
การใช้ตัวช่วยบ้างนิดๆ หน่อยก็ช่วยสร้างความมั่นใจได้ดีทีเดียวค่ะ
สมุนไพรเร่งน้ำนม -> นมแม่ -> นมผง
=======================
เชื่อว่าคงมีหลายคนที่อาจจะรู้จักหรือเคยได้ยินเรื่อง ยาประสระน้ำนม และมีคนแนะนำให้กินกันมาบ้าง
แล้วก็คงจะมีหลายคนเช่นกัน ที่ไม่กล้ากิน ขอไปถามหมอก่อน แล้วก็คงไม่ได้กิน เพราะหมอไม่รู้จัก
ในตำราหมอไม่มี หมอก็เลยไม่แนะนำ
แม่ไม่มีน้ำนม ก็ให้ลูกกินนมชงแทนสิ ไม่เห็นยาก
น่าแปลกนะคะ เวลาแม่จะกินอะไรให้มีน้ำนมเพิ่มนี่ มีแต่คนทักท้วงให้ระวังโน่น ระวังนี่
แต่เวลาเอานมผงชงให้ลูกกินนี่ ทำได้ทันทีเลย ไม่ต้องถามใคร
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว การที่แม่จะกินอะไรสักอย่างนั้น ร่างกายแม่จะเป็นตัวกรองชนิดสุดยอดแล้ว
เพราะกว่าจะผ่านระบบการย่อยของร่างกายแม่ ผ่านเข้าสู่กระแสเลือด ไปสู่กระบวนการสร้างน้ำนมนั้น
ธรรมชาติทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้น้ำนมของแม่ เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับลูกจริงๆ
ทำให้ไม่มีลูกคนไหนมีปัญหากับการกินนมแม่
...
ในทางตรงกันข้าม สำหรับเด็กบางคนแล้ว นมผสมมีความเสี่ยงมากกว่ามาก
หลายๆ คน ย่อยไม่ได้ ทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ ท้องผูก ท้องเสีย รวมทั้งทำให้ป่วยบ่อย เพราะขาดภูมิคุ้มกัน
อยากให้แม่ทุกคน ระวังและก็หาข้อมูลมากๆ เวลาจะตัดสินใจ ชงนมผสมให้ลูกกิน
เหมือนเวลาที่กังวลว่าแม่กินอันนี้ อันนั้น ปลอดภัยสำหรับลูกหรือเปล่าจังเลยนะคะ
ประสระน้ำนม
======
คำว่า “ประสระ” แปลว่า ทำให้บริสุทธิ์
“ยาประสระน้ำนม” ก็หมายความว่า เป็นยาที่ทำให้น้ำนมบริสุทธิ์ ทำให้น้ำนมดี อะไรประมาณนั้น
ยาประเภทนี้เป็นยาแผนโบราณขึ้น ทะเบียนกับ อย. ไว้หลายบริษัททีเดียว
(ของพารา-แม่เลื่อน ซองละ 12 บาท)
สมัยก่อนที่เรายังไม่ถูกครอบงำด้วย กระแสการตลาดของนมผสม
แม่ๆ สมัยนั้น ใครน้ำนมมาช้า คงหาซื้อกินกันเป็นเรื่องปกติ
แต่พอคนเริ่มไปนิยมการเลี้ยงลูกด้วยนมขวด
ยาประสระน้ำนมก็เลยกลายเป็นของที่ไม่จำเป็น
สุดท้ายก็เลิกผลิตกันไปกันเกือบหมด (สมมุติฐาน)
...
สำหรับ Domperidone นั้น คงจะรู้จักกันแล้ว เพราะมีงานวิจัยของการประชุมวิชาการนมแม่มาให้อ่านประกอบกันแล้ว
ส่วน Fenugreek นั้น ถ้าใครไป search ต่อใน google คงจะหาข้อมูลได้ไม่ยาก
เพราะเป็นอาหารเสริมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในบรรดาแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในต่างประเทศ
....
สรุปสุดท้าย
=====
ไม่ว่าจะเป็นยาตัวไหน อาหารอะไรก็ตาม ที่ช่วยเพิ่มน้ำนม นั้น
ทุกขนานเป็นการให้ผลชั่วครั้งคราวเท่านั้น ในระยะแรกๆ
แต่ระยะยาวแล้ว การที่แม่จะมีน้ำนมให้เพียงพอสำหรับลูกนั้น
แม่จะต้องนำน้ำนมออกจากร่างกาย อย่างสม่ำเสมอ โดยการดูดของลูก การบีบด้วยมือ หรือการปั๊มค่ะ
ไม่เช่นนั้นแล้ว ต่อให้เป็นยาวิเศษขนานไหน ก็ไม่อาจช่วยได้ค่ะ
ที่มา http://www.breastfeedingthai.com/ยาประสระน้ำนม.html
Wednesday, September 10, 2008
Why I named him Phoenix
ซื่อ (สำหรับพ่อแม่บางคน) คือ ลักษณะในอุดมคติที่อยากให้เขาเป็น
(พ่อแม่อยากให้เขาเป็นอย่างไร)
เป็นสิ่งที่อยากให้เขาภูมิใจ ให้เขาจดจำ ให้เขาระลึกถึงว่า "เขาเป็นอะไร?"
Phoenix is
๑) ผู้มีปัญญา ผู้รู้ (เมธี, เมธัส) รู้จักโลก รู้จักความสุขที่แท้จริง
เพิ่มเติมใน "ฮิโนโทริ - วิหคเพลิง"
๒) กตัญญู
(ภารกิจแรกที่ นกฟีนิกซ์ที่เกิดใหม่ต้องทำ คือ การรวบรวมเถ้าถ่านของพ่อแม่
แล้วนำไปฝังที่วิหารเฮลิโอโปลิส หรือนครแห่งตะวันในอียิปต์)
(ครอบคลุมรวมไปจนถึง กตัญญูต่อแผ่นดิน)
๓) มีเป้าหมายของชีวิต + มีชีวิตอยู่เพื่อสะสมทำความดี + เอื้อเฟื้อ + รู้จักไตร่ตรอง เกื้อกูลส่งเสริมคนที่ดีเหมาะสม
ในตำนานกรีก น้ำตาของนกฟีนิกซ์ก็เป็นดังโอสถทิพย์แห่งสวรรค์ที่มีพลังในการรักษา บาดแผลและชุบชีวิตได้
แต่นกฟีนิกซ์ก็ยากจะหลั่งน้ำตาให้ใคร ยกเว้นเสียแต่ว่าคนผู้นั้นจะมีคุณงามความดีมากพอที่จะกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง
๔) อ่อนโยน
(ลักษณะของนกฟีนิกซ์ในตำนานกรีก)
๕) อยู่ห่างจากไฟกิเลส
(ในตำนานกรีก เมื่อลูกนกฟินิกซ์เกิด จะโผบินออกจากกองเพลิง ขึ้นสู่ท้องฟ้า)
***************************************************************
ฮิโนโทริ - วิหคเพลิง
=================
เป็นการ์ตูนแนวปรัชญา ของอ.เทะสึกะ โอซามุ
ตัวเรื่อง จับความที่เรื่องราวบนฉากหลากหลายสมัย
ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ยุคก่อตั้งของอาณาจักรญี่ปุ่นโบราณ
ไปจนถึงยุคอวกาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งโลกอนาคต
แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวละคร เปลี่ยนช่วงเวลา หรือเปลี่ยนสถานที่ของเรื่องราวไปแห่งหนใดก็ตาม
มีอยู่เพียงไม่กี่สิ่ง ที่ยังคงอยู่ในสภาพเดิม
หนึ่งคือ ความปรารถนาที่จะมีชีวิตยืนยง เป็นอมตะเหนือกาลเวลา
อีกหนึ่งคือ เรื่องราวของวิหคเพลิง นกวิเศษที่ห้อหุ้มร่างกายด้วยเปลวไฟและประกายแสงอันโชติช่วง
...กล่าวกันว่า วิหคเพลิงนี้ เมื่อมันบาดเจ็บ หรือสิ้นอายุขัย ก็จะบินพุ่งลงไปยังเปลวเพลิง ให้แผดเผาร่างกายตัวเองจนเป็นเถ้าถ่าน
...และถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ซ้ำแล้วซ้ำ เล่า ด้วยร่างที่อ่อนเยาว์ แข็งแรง และเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต
...และผู้ใดก็ตาม ที่ได้ลิ้มรสเลือดสดๆของวิหคเพลิง ก็สามารถที่จะได้รับ "ชีวิตอันเป็นนิรันดร์" เฉกเช่นเดียวกัน
เรื่องเล่าที่แสนจะน่าเหลือเชื่อ และแฝงไปด้วยกลิ่นอายที่โรแมนติคนี้
ดึงดูดทุกผู้คน ให้หลงใหล คลั่งไคล้ และดิ้นรนที่จะได้มาครอบครอง
ไม่ว่าจะเป็นราชินีผู้ชิงชังความชรา เด็กหนุ่มผู้ต้องการต่ออายุคนรัก นักบินอวกาศผู้ต้องการความสุขที่ยืนยง
นายทหารผู้มีพันธะต้องฟื้นฟูยุคสมัยใหม่ หรือกระทั่งหุ่นยนต์ที่ต้องการพิสูจน์ความหมายการมีอยู่ของตัวเอง ฯลฯ
ทุกผู้ทุกคน ต่างหลงวนเวียน อยู่ในเขาวงกตที่ไร้ทางออก และไล่ตามภาพเงาของวิหคเพลิงนี้ อย่างสุดแรงเกิด
"ยอดปรารถนา" ดังกล่าว มีได้กับคนทุกชนชั้น ทุกยุค ทุกสมัย
...ไม่ได้ถูกกีดกันด้วยชนชาติ สถานะ สถานที่ หรือกาลเวลา
...แม้จะต้องแลกด้วยเวลาชั่วชีวิต หรือสิ่งล้ำค่าที่สุดของตนเอง และการสูญเสียที่เหลือคณานัป
...หลายร้อยหลายพันชีวิต ต้องจบสิ้นลงไป โดยที่ยังพกพาความฝันนั้น อัดแน่นไว้เต็มอก
ใครเลย จะล่วงรู้ และซึมซับถึงเนื้อแท้ของความโง่เขลานี้ ได้มากเท่ากับตัววิหคเพลิงเอง
ตลอดช่วงชีวิตอันเป็นนิรันดร์ของมัน วิหคเพลิงได้เดินทางผ่านกาลอวกาศมากมายนับไม่ถ้วน
...โบยบิน ปักหลัก และจากลา
...ไม่เร็วเกินกว่าที่ตำนานจะก่อตัว ไม่ช้าเกินกว่าที่ละอองเลือดจะแปดเปื้อนผืนดิน
...แม้นเมื่อความฝันได้ไป ถึงจุดหมายเข้าจริงๆ
ชีวิตอมตะถูกส่งมอบมายังมนุษย์เดินดินตัวน้อยๆ
เมื่อคนหนึ่งคนยืนอยู่เหนือกาลเวลา
คนผู้นั้น ก็ย่อมต้องพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความสูญเสีย
แก่นแท้แห่งอมตภาพของ "สังขาร" คือ ไม่เที่ยง
ทุกสิ่งในโลกล้วนไม่จีรัง มีเกิดและมีดับ
หากตัวเราเอง กลับต้องมาคอยพบเจอ เฝ้ามอง และจับตาดูจนกระทั่งสิ่งนั้น เดินทางไปสู่จุดจบ
ก่อนที่จะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นตามมาเป็นลำดับ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตราบนิจนิรันดร์...
นี่คือสิ่งที่มนุษย์เฝ้าปรารถนาจริงๆหรือ?
อ.เทะสึกะ นำเสนอแง่มุมเหล่านี้ให้เราลองคิด
...เราทุกคน ต่างก็มีขีดจำกัด มีชีวิตที่ต้องสิ้นสุด และมีความไม่เที่ยงที่ต้องพบเจอ...
แต่ก็เพราะเช่นนี้เอง(ไม่ใช่หรือ?) ที่ทำให้วันทุกวันของเรา เปี่ยมด้วยคุณค่า
จะดีกว่าไหม หากเราใช้ช่วงชีวิตที่เรามีอยู่อย่างจำกัดนี้
ในการหาบทสรุปที่ "เปี่ยมสุข" อย่างแท้จริง
ต้นฉบับ http://zieghart.exteen.com/20080713/75-my-hinotori
(พ่อแม่อยากให้เขาเป็นอย่างไร)
เป็นสิ่งที่อยากให้เขาภูมิใจ ให้เขาจดจำ ให้เขาระลึกถึงว่า "เขาเป็นอะไร?"
Phoenix is
๑) ผู้มีปัญญา ผู้รู้ (เมธี, เมธัส) รู้จักโลก รู้จักความสุขที่แท้จริง
เพิ่มเติมใน "ฮิโนโทริ - วิหคเพลิง"
๒) กตัญญู
(ภารกิจแรกที่ นกฟีนิกซ์ที่เกิดใหม่ต้องทำ คือ การรวบรวมเถ้าถ่านของพ่อแม่
แล้วนำไปฝังที่วิหารเฮลิโอโปลิส หรือนครแห่งตะวันในอียิปต์)
(ครอบคลุมรวมไปจนถึง กตัญญูต่อแผ่นดิน)
๓) มีเป้าหมายของชีวิต + มีชีวิตอยู่เพื่อสะสมทำความดี + เอื้อเฟื้อ + รู้จักไตร่ตรอง เกื้อกูลส่งเสริมคนที่ดีเหมาะสม
ในตำนานกรีก น้ำตาของนกฟีนิกซ์ก็เป็นดังโอสถทิพย์แห่งสวรรค์ที่มีพลังในการรักษา บาดแผลและชุบชีวิตได้
แต่นกฟีนิกซ์ก็ยากจะหลั่งน้ำตาให้ใคร ยกเว้นเสียแต่ว่าคนผู้นั้นจะมีคุณงามความดีมากพอที่จะกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง
๔) อ่อนโยน
(ลักษณะของนกฟีนิกซ์ในตำนานกรีก)
๕) อยู่ห่างจากไฟกิเลส
(ในตำนานกรีก เมื่อลูกนกฟินิกซ์เกิด จะโผบินออกจากกองเพลิง ขึ้นสู่ท้องฟ้า)
***************************************************************
ฮิโนโทริ - วิหคเพลิง
=================
เป็นการ์ตูนแนวปรัชญา ของอ.เทะสึกะ โอซามุ
ตัวเรื่อง จับความที่เรื่องราวบนฉากหลากหลายสมัย
ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ยุคก่อตั้งของอาณาจักรญี่ปุ่นโบราณ
ไปจนถึงยุคอวกาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งโลกอนาคต
แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวละคร เปลี่ยนช่วงเวลา หรือเปลี่ยนสถานที่ของเรื่องราวไปแห่งหนใดก็ตาม
มีอยู่เพียงไม่กี่สิ่ง ที่ยังคงอยู่ในสภาพเดิม
หนึ่งคือ ความปรารถนาที่จะมีชีวิตยืนยง เป็นอมตะเหนือกาลเวลา
อีกหนึ่งคือ เรื่องราวของวิหคเพลิง นกวิเศษที่ห้อหุ้มร่างกายด้วยเปลวไฟและประกายแสงอันโชติช่วง
...กล่าวกันว่า วิหคเพลิงนี้ เมื่อมันบาดเจ็บ หรือสิ้นอายุขัย ก็จะบินพุ่งลงไปยังเปลวเพลิง ให้แผดเผาร่างกายตัวเองจนเป็นเถ้าถ่าน
...และถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ซ้ำแล้วซ้ำ เล่า ด้วยร่างที่อ่อนเยาว์ แข็งแรง และเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต
...และผู้ใดก็ตาม ที่ได้ลิ้มรสเลือดสดๆของวิหคเพลิง ก็สามารถที่จะได้รับ "ชีวิตอันเป็นนิรันดร์" เฉกเช่นเดียวกัน
เรื่องเล่าที่แสนจะน่าเหลือเชื่อ และแฝงไปด้วยกลิ่นอายที่โรแมนติคนี้
ดึงดูดทุกผู้คน ให้หลงใหล คลั่งไคล้ และดิ้นรนที่จะได้มาครอบครอง
ไม่ว่าจะเป็นราชินีผู้ชิงชังความชรา เด็กหนุ่มผู้ต้องการต่ออายุคนรัก นักบินอวกาศผู้ต้องการความสุขที่ยืนยง
นายทหารผู้มีพันธะต้องฟื้นฟูยุคสมัยใหม่ หรือกระทั่งหุ่นยนต์ที่ต้องการพิสูจน์ความหมายการมีอยู่ของตัวเอง ฯลฯ
ทุกผู้ทุกคน ต่างหลงวนเวียน อยู่ในเขาวงกตที่ไร้ทางออก และไล่ตามภาพเงาของวิหคเพลิงนี้ อย่างสุดแรงเกิด
"ยอดปรารถนา" ดังกล่าว มีได้กับคนทุกชนชั้น ทุกยุค ทุกสมัย
...ไม่ได้ถูกกีดกันด้วยชนชาติ สถานะ สถานที่ หรือกาลเวลา
...แม้จะต้องแลกด้วยเวลาชั่วชีวิต หรือสิ่งล้ำค่าที่สุดของตนเอง และการสูญเสียที่เหลือคณานัป
...หลายร้อยหลายพันชีวิต ต้องจบสิ้นลงไป โดยที่ยังพกพาความฝันนั้น อัดแน่นไว้เต็มอก
ใครเลย จะล่วงรู้ และซึมซับถึงเนื้อแท้ของความโง่เขลานี้ ได้มากเท่ากับตัววิหคเพลิงเอง
ตลอดช่วงชีวิตอันเป็นนิรันดร์ของมัน วิหคเพลิงได้เดินทางผ่านกาลอวกาศมากมายนับไม่ถ้วน
...โบยบิน ปักหลัก และจากลา
...ไม่เร็วเกินกว่าที่ตำนานจะก่อตัว ไม่ช้าเกินกว่าที่ละอองเลือดจะแปดเปื้อนผืนดิน
...แม้นเมื่อความฝันได้ไป ถึงจุดหมายเข้าจริงๆ
ชีวิตอมตะถูกส่งมอบมายังมนุษย์เดินดินตัวน้อยๆ
เมื่อคนหนึ่งคนยืนอยู่เหนือกาลเวลา
คนผู้นั้น ก็ย่อมต้องพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความสูญเสีย
แก่นแท้แห่งอมตภาพของ "สังขาร" คือ ไม่เที่ยง
ทุกสิ่งในโลกล้วนไม่จีรัง มีเกิดและมีดับ
หากตัวเราเอง กลับต้องมาคอยพบเจอ เฝ้ามอง และจับตาดูจนกระทั่งสิ่งนั้น เดินทางไปสู่จุดจบ
ก่อนที่จะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นตามมาเป็นลำดับ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตราบนิจนิรันดร์...
นี่คือสิ่งที่มนุษย์เฝ้าปรารถนาจริงๆหรือ?
อ.เทะสึกะ นำเสนอแง่มุมเหล่านี้ให้เราลองคิด
...เราทุกคน ต่างก็มีขีดจำกัด มีชีวิตที่ต้องสิ้นสุด และมีความไม่เที่ยงที่ต้องพบเจอ...
แต่ก็เพราะเช่นนี้เอง(ไม่ใช่หรือ?) ที่ทำให้วันทุกวันของเรา เปี่ยมด้วยคุณค่า
จะดีกว่าไหม หากเราใช้ช่วงชีวิตที่เรามีอยู่อย่างจำกัดนี้
ในการหาบทสรุปที่ "เปี่ยมสุข" อย่างแท้จริง
ต้นฉบับ http://zieghart.exteen.com/20080713/75-my-hinotori
Subscribe to:
Posts (Atom)