Friday, June 12, 2015

คู่แข่งที่แท้จริง

ทุกปีในสหรัฐอเมริกาจะมีการประกวดแข่งขันสะกดคำ โดยจำกัดเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี งานนี้เป็นงานระดับชาติ มีเด็กมาร่วมแข่งขันถึง 10 ล้านคน และมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศในรอบสุดท้าย

ปีนี้ผู้ที่ฝ่ามาถึงรอบสุดท้ายมีเพียง 13 คน ซามีร์ ปาเตล วัย 12 ขวบ ซึ่งปีที่แล้วได้อันดับ 2 เป็นตัวเต็งอันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 คือราชีพ ทาริโกพูลา ซึ่งได้ที่ 4 เมื่อปีที่แล้ว

ชัยชนะน่าจะเป็นของซามีร์ แต่แล้วเขาก็พลาดเมื่อเจอคำว่า eramacausis (แปลว่าอะไร โปรดหาจากพจนานุกรมเล่มใหญ่ๆ) การตกรอบของซามีร์ ทำให้ราชีพเป็นตัวเต็งอันดับ 1 ทันที

มีนักข่าวคนหนึ่งถามราชีพว่า ดีใจไหมที่คู่ปรับตกรอบไป คำตอบของราชีพก็คือ "ไม่ครับ นี่เป็นการแข่งขันกับ คำ ไม่ใช่กับ คน ครับ"...

คำตอบของราชีพคงทำให้ผู้ใหญ่หลายคนได้คิด ใช่หรือไม่ว่าเวลาเราแข่งขันในเรื่องอะไรก็ตาม เรามักจะมองเห็นผู้ร่วมแข่งขันเป็นปรปักษ์หรือฝ่ายตรงข้าม ในใจจึงอยากให้เขามีอันเป็นไป เพื่อเราจะได้เป็นผู้ชนะแต่ผู้เดียว หารู้ไม่ว่าลึกๆ ความอิจฉาและพยาบาทกำลังก่อตัวขึ้น ดังนั้น แข่งไปจึงทุกข์ไป แข่งเสร็จแล้วก็ยังทุกข์อีกที่เห็นคนอื่นเก่งกว่าตน

แต่สำหรับราชีพ แม้การแข่งขันจะดุเดือดอย่างไร เขาไม่ได้มองไปที่คน แต่มองไปที่คำ สำหรับเขาความท้าทายอยู่ที่การต่อสู้กับคำยากๆ คำยากทุกคำคือปริศนาที่เขาต้องถอดออกมาเป็นตัวๆ ให้ได้ เมื่อใจไปจดจ่ออยู่ที่คำเหล่านี้ เขาจึงไม่ยินดียินร้ายที่ผู้ร่วมแข่งขันจะไปหรืออยู่

แม้ว่าในที่สุดราชีพจะได้เป็นที่ 4 (เพราะแพ้คำว่า Heiligenschein) แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทุกข์เพราะเกลียดหรืออิจฉาคนที่เก่งกว่าเขา คงมีแต่ความมุ่งมั่นที่จะศึกษาค้นคว้าให้หนักขึ้นเพื่อพิชิตคำยากๆ ในปีหน้า

มุมมองของราชีพนั้น ไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะในยามแข่งขันเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าสำหรับการดำเนินชีวิต และสัมพันธ์กับผู้คนด้วย...ใช่หรือไม่ว่า ในชีวิตประจำวัน เมื่อเราถูกวิพากษ์วิจารณ์ ใจเรามักจะพุ่งตรงไปยังคนวิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่ค่อยสนใจคำวิพากษ์วิจารณ์เท่าใดนัก ดังนั้นแม้ว่าคำวิพากษ์วิจารณ์จะถูกต้อง ให้แง่คิดที่ดีเพียงใดก็ตาม แต่เราไม่สนใจที่จะไตร่ตรองเสียแล้ว เพราะใจนั้นเต็มไปด้วยความเกลียด และโกรธคนที่วิพากษ์วิจารณ์เรา

ถ้าเราหันมาใส่ใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์กันให้มากขึ้น และสนใจให้น้อยลงกับการตอบโต้เพื่อเอาชนะคะคานคนที่วิพากษ์วิจารณ์ นอกจากเราจะทุกข์หรือโกรธเกลียดน้อยลงแล้ว เรายังมีโอกาสที่จะได้ประโยชน์จากคำวิพากษ์วิจารณ์นั้นด้วย โดยเฉพาะหากเป็นคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ถูกต้อง

คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ ถึงกับบอกว่า
วันไหนไม่ได้รับคำตำหนิ วันนั้นถือเป็นอัปมงคลเลยทีเดียว

ที่มา :
https://www.facebook.com/wirodePAG/photos/a.1636356973256434.1073741828.1632981996927265/1879218635636932/?type=1

No comments:

Post a Comment