หากมีคนถามว่า ใครเป็นยอดนักขายที่เก่งที่สุดในเมืองไทยในยุคนี้?
เชื่อว่าคงมีคนไม่น้อยที่ตอบว่า "คุณตัน อิชิตัน" แต่จริงๆ ผมว่า คุณตันไม่ได้เป็นสุดยอดนักขายหรอก แกเป็นสุดยอดนักการตลาดต่างหาก...
คุณตันไม่เคยออกมาป่าวประกาศให้คนมาซื้อชาเขียวของแกแลย แกทำการตลาดอย่างเดียว คุณตันรู้นิสัยของคนไทยจริงๆ แกทำ Promotion แต่ละปี ก็มีคนไปต่อแถวซื้อชาเขียวแกถล่มทลายแล้ว
วันหนึ่งของปีที่แล้ว หุ้นส่วนผมเขาเปิดประตูออฟฟิศเข้ามา พร้อมยกอิชิตันมา 1 ลัง แกะกล่องเสร็จแล้วก็เดินออกไปแจกให้กับพนักงานในไลน์ผลิต เขาบอก "อ่ะพี่ ให้ปอร์เช่คันนึง" พนักงานก็ขอบอกขอบใจกันใหญ่ คงจะเหมือนกับซื้อ Lottery ให้ ผมก็มาคิดว่า โอ้โห...Campaign นี้มันได้ผลถึงขนาดนี้เลยหรอวะเนี่ย (ส่วนตัวก็ส่งไปหลายฝาเหมือนกัน...แฮ่) เห็นว่าปีนี้แจกเบนซ์ 50 วัน 50 คัน ยอดขายคงถล่มทลายเหมือนเดิม...
อีกซักตัวอย่างหนึ่ง หากมีคนถามว่าใครเป็นสุดยอดนักประดิษฐ์ในประวัติศาสตร์โลก ส่วนใหญ่คงตอบว่า "โทมัส แอลวา เอดิสัน" แต่หลายคนอาจแย้งว่า "นิโคลา เทสลา" สิเจ๋งกว่า ทั้งคู่เป็นคนในยุคสมัยเดียวกัน เอดิสันคิดไฟฟ้ากระแสตรง เทสลาคิดไฟฟ้ากระแสสลับ , เอดิสันคิดหลอดไฟแบบมีไส้ แต่เทสลาคิดหลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ แถมเทสลายังเป็นคนค้นพบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คิดค้นสัญญาณวิทยุ เรดาร์ และการสื่อสารแบบไร้สาย ฯลฯ เรียกได้ว่าเจ๋งสุดๆ...
หากเป็นเรื่องนักประดิษฐ์ ทั้งคู่ถือได้ว่าเป็นสองสุดยอด กินกันไม่ลง แต่ถ้ามองในแง่ของความมั่งคั่งและการประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วล่ะก็ ถือว่าห่างกันมาก เทสลาถือเป็นนักประดิษฐ์ที่เรียกได้ว่า ประดิษฐ์ของอย่างเดียวแต่ไม่รู้จะไปขายใคร แต่เอดิสันเป็นนักประดิษฐ์ที่มีหัวการตลาดด้วย เขาจะประดิษฐ์เฉพาะของที่มีตลาดรองรับเท่านั้น
หลายคนอาจไม่รู้ว่า บริษัท General Electrics อันเกรียงไกรและอยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้ แท้ที่จริงแล้ว โทมัส แอลวา เอดิสันเป็นผู้ก่อตั้ง และครั้งหนึ่ง เทสลาก็เคยเป็นพนักงานของเอดิสันด้วย
เทสลาจบชีวิตในวัย 86 ปีอย่างโดดเดี่ยวในโรงแรมแห่งหนึ่งในนิวยอร์คด้วยหนี้สินมากมาย กว่าแม่บ้านทำความสะอาดจะมาพบศพเขาก็อีกหลายวันให้หลัง...
ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร นักดนตรี นักร้อง นักขาย นักโฆษณา นักวิทยาศาสตร์ พ่อครัว ติวเตอร์ หากคุณต้องการที่จะมีความมั่งคั่งในชีวิต ต้องการที่จะประสบความสำเร็จ หนึ่งในพื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือ...
"คุณต้องมี Marketing Mind ต้องเข้าใจเรื่องของการตลาดด้วยครับ"
ที่มา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1824569601101836&id=1632981996927265
No comments:
Post a Comment