“หมอ”……ที่แท้จริง 👨⚕️
ในวงราวน์คนไข้ แห่งหนึ่ง
เช้าวันหนึ่ง 7.30 ครูแพทย์สาวโสดวัยเกือบ 50 มาดูคนไข้ที่วอร์ดเด็ก
นักศึกษาแพทย์ปี 4,5,6 แพทย์ใช้ทุน แพทย์ประจำบ้าน_กรูกันเข้ามาหาอาจารย์แพทย์เพื่อรายงานเคส
นสพ.ปี 6…”เคสนี้เด็กชายไทย 4 ปี มาด้วยไข้ ไอ น้ำมูก 3 วัน หลังจากนั้น ถ่ายเหลว 5 ครั้ง ก้นแดงครับ...ตรวจร่างกาย บลา.... ผลแลปบลาๆๆๆ
บลาๆๆๆๆๆ
ครูแพทย์…;”วินิจฉัยอะไร อ่ะปี 5 ตอบสิคะ”
นสพ.ปี 5…” gastroenteritis ครับ” (ลำไส้อักเสบ) อาจารย์
ครูแพทย์:-เก่งมากค่ะ
ครูแพทย์…; ปี 4 ตอบสิ มีเชื้ออะไรบ้าง 3 เชื้อค่ะ
นสพ.ปี 4… ไวรัส rota, adenovirus และ norovirus ครับ
ครูแพทย์… ยิ้ม เก่งมากค่ะ ทุกคน
เด็กคนนี้มีปัญหาอะไรอีกค่ะ
???????
เอาละสิ ปี4-6 พี่แพทย์ใช้ทุน แพทย์ประจำบ้าน เงียบ ในใจ มีอะไรอีกหรอ น่าจะครบสิ
เงียบ
_
ครูแพทย์. ลองสังเกตเด็กดีๆสิ
สายตาทุกคู่ เหลือบมองไปที่เตียงเด็ก ดูเด็ก
และสังเกต
ในใจน้องๆหมอ ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่
เงียบบบบ
_
ครูแพทย์ กระตุ้น สังเกตดีๆๆสิ
ก็ยังเงียบ
_
_
_
ครูแพทย์… เห็นอะไรไหม
1) “เด็ก 4 ขวบ ทำไมตัวเล็ก จากสายตาคาดว่า จะหนักสัก 10 กก. คุณหมอได้ถามประวัติอาหารไหม นี่ก็คือปัญหานะ กินข้าวกี่มื้อ เนื้อสัตว์ผัก นมกินยี่ห้อไร กี่กล่องต่อวัน
2)เห็นขวดนมที่ตั้งอยู่หัวเตียงคนไข้ไหม
ปกติ ควรเลิกตอนอายุ 18 เดือนถึง 2 ปี ทำไมเด็กถึงยังไม่เลิก
เชื่อไหม ไป รร. ไม่ต้องกินขวด แต่กลับมาบ้านต้องกินขวด
นสพ อึ้ง
หันไปถามคนเฝ้าไข้
เป็นเช่นนั้นจริงๆตามครูแพทย์กล่าว
“แล้วคุณหมอเห็นฟันเด็กไหม”
นสพ. เงียบ ยังไม่ได้ดูครับ
ครูแพทย์ _พี่เห็นมีฟันผุที่ด้านบน เหี้ยนเลย ไม่เชื่อลองเปิดดู
เป็นจริงดั่งครูแพทย์ว่า
นสพ. อึ้ง นี่อาจารย์แค่ฟัง
และมองๆรอบเตียง เหมือนไม่ได้สนใจ
แต่ครูแพทย์เก็บรายละเอียดยิบ
โดยที่ยังไม่ได้จับคนไข้เลย
ยังๆยังไม่หมด ครูแพทย์ พูดต่อ
3) เห็นคนเลี้ยงไหม ที่นั่งข้างเตียงเด็ก
นสพ. ทุกคนย้ายสายตาไปดูคนเฝ้า
ภาพที่เห็น
เป็นคุณยายอายุเกือบ 70 ปีนั่งเฝ้าหลานวัย 4 ปี
ท่าทางอิดโรย
อาจารย์แพทย์_”น้องหมอได้ถามไหม พ่อแม่เด็ก ทำงานอะไร แล้วยายมาเฝ้าหลาน เดินทางมาไง นอนที่ไหน ใครส่งเงินให้ ใครทำกับข้าวให้ ใครไปส่ง รร.
สุดท้ายครูแพทย์กล่าว
“คนนี้น่าจะมีภาวะซีด ค่าเลือดน่าจะอยู่ที่ 25-28%
ไม่เชื่อลองเปิดผลเลือดดู”
ครูแพทย์ พูดออกมา โดยยังไม่เห็นผลเลือดเด็ก
ได้แต่ยืนและสังเกต
นสพ. ปี 6 เปิดผลเลือดถึงกับอึ้ง
ค่าความเข้มข้นเลือด =26%
นี่แหละครับ
การเรียนแพทย์คือ เรียนจากคนไข้ ฝึกประสบการณ์
หมอที่ดีไม่ใช่หมอที่ท่องตำราเก่งอย่างเดียว
หมอที่ดีคือหมอที่ดูคนไข้ สังเกต มองรอบข้างทุกอย่าง hollistic care
โรค กาย จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม แล้วเก็บประสบการณ์แต่ละเคส เพื่อพัฒนาการดูแลคนไข้ และใช้สอนน้องๆหมอ
วันนี้น้องๆหมอดูคนไข้รอบด้าน ละเอียดหรือยังครับ
ให้กำลังใจหมอใหม่ นักเรียนแพทย์ใหม่ทุกคน
เรียนแพทย์ไม่ยาก แต่ที่ยากคือ ความรับผิดชอบและใส่ใจคนไข้
หมอเรารักษา โรค แล้ว อย่าลืม รักษา คน ด้วย
https://www.facebook.com/133050930458942/posts/699296100501086/
No comments:
Post a Comment