Friday, November 19, 2021

cub and kitten

วันนี้หมอจะเล่านิทานให้ฟัง 
เรื่อง “อย่าเห็นแก่ตัว อย่าโทษคนอื่น”

แม่สิงโตตัวหนึ่ง เห็นลูกตัวเองกำลังโยนความผิดไปให้แมว เหตุเพราะอยากได้หินสีรุ้งจึงไปแอบขโมยมา เจ้าแมวน้อยที่แอบเห็นแล้วเอาเรื่องไปบอกสัตว์อื่นๆ จึงโดนใส่ร้ายแทน ลูกสิงโตบอกสัตว์ทุกตัวว่า แมวต่างหากที่ขโมยหินสีรุ้งไป ทำให้สัตว์ป่าสับสน ส่วนเจ้าแมวก็พยายามหาทางทำให้ความจริงปรากฏ...
.

แม่สิงโตซึ่งผ่านประสบการณ์มามากมาย รู้ว่าลูกกำลังหลงผิด เข้าใจไปว่าการได้หินสีรุ้งมาไว้ในครอบครองจะทำให้มีความสุขมากขึ้น จึงคิดหาวิธีช่วยลูก

..........
แม่สิงโต “ลูกจ๋า ทำไมลูกอยากได้หินสีรุ้งเพิ่มอีกละ ถ้ำของเรามีหินสีรุ้งมากมายอยู่แล้วนะ”

ลูกสิงโตตอบแม่ว่า “มีแล้วก็ต้องมีอีกซิแม่ สัตว์ที่ไหนก็อยากได้ ยิ่งมีมากๆ ก็ยิ่งมีความสุข”
..........
แม่สิงโตถามลูกว่า “หินสีรุ้งทำให้ลูกมีความสุขได้อย่างไร” 

ลูกสิงโตตอบแม่ “อย่างแรกเลย เราเอาไปแลกกับเนื้อชิ้นใหญ่ๆได้ หรือถ้าแม่อยากลองกินเนื้อฉลาม ก็ได้นะ! แม่ก็แค่ใช้หินสีรุ้งมากขึ้น..... และอย่างที่สอง สัตว์ทั้งป่าจะต้องเอาใจเรา เพราะเรามีสิ่งที่แลกกับทุกสิ่งได้บนโลกนี้”
..........
แม่สิงโตท่าทางสุขุมถามลูกกลับ “อืม... หินสีรุ้งดีแบบนั้นเลยหรือ แล้วมีอะไรที่หินสีรุ้งแลกไม่ได้บ้างมั้ย?

ลูกสิงโตตอบด้วยความมั่นใจ “ไม่มีหรอกแม่!!”
..........
แม่สิงโตเลยขอให้ลูกช่วย “งั้น ลูกช่วยแม่หน่อยนะ แม่อยากได้บางอย่าง ไม่รู้ว่าลูกจะช่วยได้มั้ย”

ลูกสิงโตเชิดอก “สบายมาก บอกมาเลย แม่ต้องการอะไร”
..........
แม่สิงโตกระซิบลูกเบาๆว่า “แม่อยากได้ ลูกที่มีความสุข”

ลูกสิงโตมีสีหน้างง “ลูกมีความสุขอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องขอเรื่องนี้เลย ดูซิ หินสีรุ้งเต็มถ้ำไปหมด” 
..........
แม่สิงโตถามต่อ “แล้วมิตรภาพละ ลูกมีมั้ย”

ลูกสิงโตยิ่งงงมากขึ้น “มิตรภาพ! .. แม่คิดว่า ลูกไม่มีเพื่อนเหรอ! แม่อยากได้เพื่อนกี่คน เดี๋ยวจัดให้ เอาหินสีรุ้งไปแจก รับรองว่าได้เพื่อนับไม่ถ้วน”
..........
แม่สิงโตถามต่อว่า “เพื่อนที่คบกับลูกเพราะต้องการหินสีรุ้ง จะเรียกว่า เพื่อนได้จริงหรือ?”

ลูกสิงโตทำหน้าสงสัย....
.
.
..........
แม่สิงโตสอนลูกว่า... “ลูกจ๋า ความสุขจริงๆของคนเราคือ การได้ทำสิ่งที่ดีต่อตนเองและต่อผู้อื่นด้วย ไม่ใช่ดีต่อตนเองแต่คนอื่นโดนเอาเปรียบ ลูกไปขโมยของคนอื่นมา ลูกหาแต่ความสุขใส่ตัว แต่ลูกทำให้คนที่ต้องการจริงๆเดือดร้อน”

ลูกสิงโตตั้งใจฟัง......
..........
แม่สิงโตสอนต่อว่า “มีคนมากมาย จำเป็นใช้สิ่งนี้มาก ลูกไม่ได้จำเป็นใช้เลยสักนิด.. แม่ไม่อยากให้ลูกแม่เห็นแก่ตัวเลย”

ลูกสิงโตเสียงอ่อยลง “ลูกมีความสุขแบบนี้ แม่ไม่มีความสุขเหรอ”
..........
แม่สิงโตสอนต่อว่า “ลูกมีความสุขบนความทุกข์คนอื่นแบบนี้ แม่ไม่มีทางมีความสุขหรอก”

ลูกสิงโตหน้าเศร้า...
..........
แม่สิงโตสอนต่อ “ลูกอยากโดนเอาเปรียบมั้ยละ” 

ลูกสิงโต “ไม่อะ.. ลูกจะเศร้ามากและโกรธมาก ถ้าลูกต้องใช้ แล้วมีคนอื่นขโมยไป”
..........
แม่สิงโต “คนที่ลูกไปขโมยมาก็รู้สึกแบบที่ลูกรู้สึกแหละ ลูกไม่อยากโดนอะไร ลูกต้องไม่ทำกับคนอื่นนะ”

ลูกสิงโตพยักหน้ารับ
..........
แม่สิงโตเสริมเรื่องมิตรภาพ “อีกเรื่องนะลูก เพื่อนที่ดีคือเพื่อนที่ใส่ใจลูกจริงๆ ลูกจะมีเพื่อนแบบนี้ได้ ลูกต้องเอาใจใส่เขา เราเรียกว่า “ใช้ใจซื้อใจ” ไม่ใช่ใช้หินสีรุ้งที่ซื้อได้แต่ตัว ไม่ได้ใจจริงหรอก เพื่อนที่คบกับลูกเพราะต้องการหินสีรุ้ง วันใดที่ลูกไม่มีหินเหล่านี้ ลูกจะไม่เหลือใครเลย”

ลูกสิงโตเริ่มคิดได้ “ที่แม่บอกว่า อยากได้ลูกที่มีความสุข แม่หมายถึง ลูกจะไม่มีความสุขจริงเพราะลูกจะไม่เหลือเพื่อน ไม่เหลือใครเลย ใช่มั้ย”
..........
แม่สิงโตกอดลูกด้วยความรัก “ใช่จ้ะลูก... ตอนนี้ลูกอาจไม่รู้สึก จนกว่าจะถึงวันที่ลูกแก่ตัวลงหรือตอนที่ลูกเจ็บป่วยไม่สบาย ลูกจะเริ่มเข้าใจว่า มิตรภาพของจริงนั้น ช่วยให้ลูกมีความสุขยังไง”

ลูกสิงโตหลับตา “ลูกคิดไม่ออกหรอก น่าจะอีกนาน.. แต่ลูกเชื่อแม่นะ”
.
.
แล้วลูกสิงโตก็กลับเข้าไปในใจกลางป่า ยอมรับกับสัตว์ทุกตัวว่าเป็นคนขโมยหินสีรุ้งไปเอง และยอมรับว่าโทษเจ้าแมวน้อยเพราะกลัวมีประวัติ กลัวจะไม่ได้เป็นเจ้าป่าต่อไปในอนาคต

สัตว์ทั้งหลายเห็นว่าลูกสิงโตยอมรับด้วยใจจริง และยังเป็นเด็กจึงให้อภัยและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป😊

หมอเสาวภาเลี้ยงลูกเชิงบวก

No comments:

Post a Comment